สุราษฏร์ธานี

    สุราษฎร์ธานีเป็นจังหวัดท่องเที่ยวสำคัญอันดับต้นๆ ของประเทศอีกจังหวัดหนึ่ง เพราะมีธรรมชาติอันสวยงาม ทั้งหมู่เกาะต่างๆ เช่น เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า เกาะนางยวน หมู่เกาะอ่างทอง และมีพื้นที่ป่าดิบชื้นบนบกที่อุดมด้วยพืชพรรณอันหลากหลาย สายน้ำมากมาย และสัตว์ป่านานาชนิดสุราษฎร์ธานียังเพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกทุกรูปแบบครบครัน มีการคมนาคมที่สะดวกทั้งทางรถ รถไฟ เรือ และเป็นที่ตั้งของสนามบินถึง 2 แห่ง ที่ช่วยเพิ่มศักยภาพในการรองรับนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี จนปัจจุบันได้กลายเป็นเมืองศูนย์กลางการท่องเที่ยวของชายฝั่งทะเลอ่าวไทยตอนใต้ ที่มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติหลั่งไหลไปเยี่ยมเยือนปีละหลายล้านคน

   จังหวัดสุราษฎร์ธานีมีเนื้อที่ประมาณ 12,891 ตารางกิโลเมตร หรือ 8,056,875 ไร่ เป็นจังหวัดที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 6 ของประเทศ และมีขนาดใหญ่ที่สุดของภาคใต้ สภาพภูมิประเทศมีความหลากหลายตั้งแต่เกาะขนาดต่างๆ ในทะเลอ่าวไทย ภูเขา ที่ราบสูง ที่ราบชายฝั่งทะเล และที่ราบลุ่มแม่น้ำ มีแม่น้ำที่สำคัญ คือ แม่น้ำตาปีและแม่น้ำไชยา มีชายฝั่งทะเลยาวประมาณ 156 กิโลเมตรสุราษฎร์ธานีเป็นเมืองเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ มีชนพื้นเมืองเป็นพวกเซมังและชาวมลายูดั้งเดิม ซึ่งอาศัยอยู่ในเขตลุ่มน้ำหลวง (แม่น้ำตาปี) และบริเวณอ่าวบ้านดอน และจากการค้นพบร่องรอยของอารยธรรมศรีวิชัยในเขตอำเภอไชยา และพบร่องรอยของเมืองเก่าอีกหลายแห่งบริเวณรอบอ่าวบ้านดอน เช่น เมืองกาญจนดิษฐ์ เมืองท่าทอง เมืองพุนพิน และเมืองเวียงสระ จึงสันนิฐานว่าเมืองไชยาเคยเป็นราชธานีของอาณาจักรศรีวิชัยในอดีตเมื่ออาณาจักรศรีวิชัยเสื่อมอำนาจลง เมืองในแถบนี้ได้แยกออกเป็น 3 เมือง คือ เมืองไชยา เมืองท่าทอง และเมืองคีรีรัฐ อยู่ภายใต้การปกครองของเมืองนครศรีธรรมราช ตรงกับช่วงเวลาที่อาณาจักรสุโขทัยทางเหนือกำลังเจริญรุ่งเรือง และได้ขยายอำนาจลงมาทางใต้ไปถึงแหลมมลายู เมืองไชยาจึงตกอยู่ภายใต้การปกครองของกรุงสุโขทัยและกรุงศรีอยุธยาในเวลาต่อมาต่อมาในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 เมืองนครศรีธรรมราชอ่อนแอลง ในขณะที่บ้านดอนมีความเจริญรุ่งเรืองมาก เพราะมีการติดต่อค้าขายกับต่างประเทศ จึงโปรดเกล้าฯ ให้ย้ายเมืองท่าทองมาตั้งที่บ้านดอน และยกฐานะเป็นเมืองจัตวาขึ้นตรงต่อกรุงเทพมหานคร โดยพระราชทานนามเมืองใหม่ว่า “กาญจนดิษฐ์” ครั้นเมื่อมีการปกครองแบบมณฑลเทศาภิบาล จึงโปรดเกล้าฯ ให้รวมเมืองกาญจนดิษฐ์ (บ้านดอน) เมืองคีรีรัฐนิคม และเมืองไชยา เข้าเป็น “อำเภอเมืองไชยา” ต่อมาได้มีการกำหนดให้เรียกอำเภออันเป็นที่ตั้งของศาลากลางจังหวัดว่า “อำเภอเมือง” บ้านดอนซึ่งเป็นบริเวณที่ตั้งศาลากลางจังหวัดในขณะนั้น จึงเปลี่ยนเป็น “อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี” แปลว่าเมืองแห่งคนดี ตามชื่อจังหวัดที่ได้รับพระราชทาน ส่วนอำเภอเมืองไชยาก็ถูกตัดคำว่า “เมือง” ออกเหลือเพียง “อำเภอไชยา” เป็นอำเภอหนึ่งของสุราษฎร์ธานีมาจนทุกวันนี้ปัจจุบันจังหวัดสุราษฎร์ธานีแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 18 อำเภอ 1 กิ่งอำเภอ คือ อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี อำเภอพุนพิน อำเภอคีรีรัฐนิยม อำเภอพนม อำเภอกาญจนดิษฐ์ อำเภอเกาะสมุย อำเภอดอนสัก อำเภอไชยา อำเภอท่าชนะ อำเภอท่าฉาง อำเภอบ้านนาสาร อำเภอพระแสง อำเภอเวียงสระ อำเภอเคียนซา อำเภอบ้านตาขุน อำเภอเกาะพะงัน อำเภอบ้านนาเดิม อำเภอชัยบุรี และกิ่งอำเภอวิภาวดี

พิพิธเมืองคนดี

ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว พิพิธเมืองคนดี
ชื่อสถานที่ : พิพิธเมืองคนดี
จังหวัด : จ.สุราษฎร์ธานี
ประเภท : ศูนย์การเรียนรู้
ช่วงเวลาน่าเที่ยว : ตลอดทั้งปี
กิจกรรม : ศึกษาเรื่องราวความเป็นมาของจังหวัดสุราษฎร์ธานี




  ศูนย์การเรียนรู้ “พิพิธเมืองคนดี” เป็นอาคารแสดงเรื่องราวความเป็นมาและเหตุการณ์ต่างๆ ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี อาทิ เหตุการณ์เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช เสด็จเยือนจังหวัดสุราษฎร์ธานี อดีตเมืองท่าข้าม ประวัติศาสตร์สะพานจุลจอมเกล้า เรื่องราวท่านพุทธทาส ภิกขุ ปรัชญาเมธีผู้ยิ่งใหญ่ รวมถึงสวนโมกขพลาราม ฯลฯ

ภายในอาคารจะนำเสนอในรูปแบบภาพบนฝาผนัง นำเสนอในลักษณะหนังสืออิเล็กโทรนิค ซึ่งเป็นที่สนใจของผู้ที่เยี่ยมชมทุกเพศ ทุกวัย ได้แบ่งพื้นที่จัดแสดงเป็นส่วนๆคือ ส่วนแรก เป็นการแสดงเรื่องราวของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์พระบรมราชินีนาถ ในการเสด็จเยือนจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งล้นเกล้าทั้งสองได้เสด็จเยี่ยมพสกนิกรชาวสุราษฎร์ธานีถึง 15 ครั้งด้วยกัน

ถัดไปจะเป็นส่วนแสดงเรื่องราวของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่เล่าเรื่องตั้งแต่การปรากฏหลักฐานของการตั้งเมืองโบราณในดินแดนแถบนี้ ซึ่งก็มีเมืองเวียงสระ เมืองท่าทอง เมืองท่าขนอน เมืองพุนพิน และเมืองไชยา เล่าถึงความสัมพันธ์กับราชอาณาจักรสยามตั้งแต่ครั้ง กรุงศรีอยุธยาถึงกรุงธนบุรี วิวัฒนาการของการจัดการปกครองในสมัยรัตนโกสินทร์ ตั้งแต่ยุคต้นจนถึงปัจจุบัน

บันทึกสำคัญอย่างยิ่งที่ชาวสุราษฎร์ธานีทุกคนควรเข้ามาเรียนรู้ คือเหตุการณ์การเสด็จประพาสเกาะสมุย เกาะพงัน ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 และเหตุการณ์การเสด็จมาประทับแรมของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ซึ่งพระองค์ได้พระราชทานนามจังหวัดนี้ว่า “สุราษฎร์ธานี” และตั้งชื่อแม่น้ำหลวงให้ใหม่ว่า “แม่น้ำตาปี”

พระบรมธาตุไชยา โบราณสถานสำคัญที่เป็นหลักฐานของความเจริญรุ่งเรือง ของอารยธรรมศรีวิชัยที่ปรากฏในดินแดนแถบนี้ และยังเป็นร่องรอยที่บอกเล่าถึงความเก่าแก่ของเมืองไชยา ที่ชาวไชยาได้ตั้งหลักปักฐานอยู่ที่นี่มาแล้วเป็นพันปี โดยเฉพาะในเขตสันทรายไชยาอันเป็นที่ตั้งของเมืองโบราณไชยา ที่ยังมีหลักฐานอื่นๆอีกเช่นโบราณสถานวัดแก้ว วัดหลง และที่วัดเวียง

บ้านพุมเรียง

ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว บ้านพุมเรียง
ชื่อสถานที่ : บ้านพุมเรียง
จังหวัด : จ.สุราษฎร์ธานี
ประเภท : หมู่บ้านท้องถิ่น
ช่วงเวลาน่าเที่ยว : ตลอดทั้งปี
กิจกรรม : เที่ยวชมวิถีชีวิต ซื้อผ้าไหมพุมเรียง
อื่นๆ : สามารถขอเข้าชมกระบวนการทอผ้าไหมพุมเรียงได้




 พุมเรียง ชุมชนเก่าแก่ที่มีมาแต่โบราณ ตั้งอยู่ริมคลองพุมเรียงซึ่งไหลลงทะเลที่แหลมโพธิ์ แหล่งจอดเรือสินค้า ในเส้นทางการค้าข้ามสมุทรตั้งแต่สมัยโบราณ ซึ่งเป็นเส้นทางการเดินเรือสินค้าจากจีนไปยังอินเดียและตะวันออกกลาง หรือเป็นที่รู้จักกันในนามเส้นทางสายแพรไหมทางทะเล จากการสำรวจทางโบราณคดีเมื่อครั้ง พ.ศ.2524 พบซากเรือบริเวณแหลมโพธิ์ เป็นสิ่งยืนยันถึงการเป็นที่จอดเรือของชาติต่าง ๆ และจากการขุดหลุมสำรวจเพื่อสุ่มตัวอย่าง พบหลักฐานที่ชี้ว่าแหลมโพธิ์เป็นเมืองท่าทางพาณิชย์นาวีที่มีอายุราวพุทธศตวรรษที่ 12 - 18  และและคงสืบเนื่องถึงสมัยกรุงศรีอยุธยาด้วย

กิจกรรมที่น่าสนใจในบ้านพุมเรียง
-ชมการทอผ้าไหมพุมเรียง
-เลือกซื้อหาผ้าไหมลายสวยจากพุมเรีย
สิ่งน่าสนใจอื่นๆในบ้านพุมเรียง
-โรงทอผ้า
-บ้านเก่าของท่านพุทธทาส
-ชายทะเลแหลมโพธิ์


เกาะพะงัน

ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว เกาะพะงัน
ชื่อสถานที่ : เกาะพะงัน
จังหวัด : จ.สุราษฎร์ธานี
ประเภท : ทะเล เกาะ
ช่วงเวลาน่าเที่ยว :ตลอดทั้งปี
กิจกรรม : พักผ่อนริมชายหาด กิจกรรมทางทะเล นั่งเรือชมหมู่เกาะอ่างทอง เกาะเต่า เกาะนางยวน
อื่นๆ : มีเรือเฟอร์รี่ตรงจากอำเภอดอนสักใช้เวลาเดินทางประมาณสองชั่วโมงครึ่ง หรือจะนั่งจากท่าเรือเกาะสมุยไปก็ได้

                                  

                                 


 เกาะพะงัน เกาะอันมีชื่อเสียงอยู่ทางเหนือของเกาะสมุยประมาณ 30กม.เป็นเกาะแห่งความภาคภูมิใจของชาวสุราษฎร์ธานีที่ได้ถวายการต้อนรับพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรีถึง 4 พระองค์ นับจากรัชกาลที่ 5จนถึงรัชกาลปัจจุบัน เกาะพะงันแหล่งท่องเที่ยวกลางทะเลแห่งหนึ่งซึ่งนักเดินทางวางเป้าหมายไว้ว่าจะต้องไปให้ถึง ในบรรยากาศการพักผ่อนที่ค่อนข้างสงบ ความเขียวขจีของพืชพรรณความร่มรื่นของทิวไม้ริมชายหาด ความขาวของหาดทรายและความใสของน้ำทะเลเป็นเสน่ห์ที่ชวนหลงใหลของเกาะพะงัน บนเกาะพะงันมีที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่งเช่นน้ำตกธารเสด็จ เป็นน้ำตกที่รัชกาลที่5 ได้พระราชทานนามไว้ และเสด็จประพาสถึง 14 ครั้งสามารถไปได้ทั้งทางเรือและทางรถน้ำตกแพง เป็นน้ำตกที่สวยงามมีหลายชั้นเช่น แพงน้อย ธารน้ำรัก ธารกล้วยไม้มีน้ำตลอดทั้งปีแสดงถึงความสมบูรณ์ของผืนป่า มีทางเดินป่าไปยังโดมศิลาซึ่งเป็นจุดชมวิวและชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม ท้องศาลาคือชุมชนใหญ่ที่สุดของเกาะพะงัน เป็นศูนย์ธุรกิจการท่องเที่ยวและศูนย์การเดินทาง มีทั้งท่าเรือ บริษัทเรือ เรือและรถให้เช่า ร้านอาหาร ที่พัก และบริการแทบทุกชนิด


กิจกรรมที่น่าสนใจในเกาะพะงัน

-ประเพณีชักพระทางทะเล

ถ้ำขมิ้น

 ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว ถ้ำขมิ้น
ชื่อสถานที่ : ถ้ำขมิ้น
จังหวัด : จ.สุราษฎร์ธานี
ช่วงเวลาน่าเที่ยว :ตลอดทั้งปี
กิจกรรม : ชมความงดงามภายในถ้ำ
อื่นๆ : หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็น ที่ รย. 5 (ถ้ำขมิ้น) โทร.0 7734 4633




 ถ้ำขมิ้น ก่อนหน้านี้เคยเป็นถ้ำสัมปทานเก็บมูลค้างคาว จะเห็นได้จากการพบร่องรอยและอุปกรณ์ต่างๆที่ยังหลงเหลืออยู่ ปัจจุบันเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง เป็นถ้ำใหญ่โตมโหฬารที่มีหินงอกหินย้อยสวยงาม และเป็นที่ศึกษาวิจัยทางด้านโบราณคดี ศาสนา ธรณีวิทยาและสัตววิทยา ถ้ำขมิ้น เป็นถ้ำประเภท solution cave ที่เกิดในภูเขาหินคาร์บอเนตและซัลเฟตโดยเกิดจากน้ำฝนและน้ำใต้ดินที่มีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ รวมกับไอออนของน้ำทำปฏิกริยากันกลายเป็นกรดคาร์บอนิกอย่างอ่อนไหลผ่านตามรอยแตกของชั้นหินที่อยู่ใต้ดิน โดยจะละลายหินที่มีส่วนประกอบของแร่แคลไซต์หรือแคลเซี่ยมคาร์บอเนตให้เป็นรอยแตกหรือรูโพรงกว้างซึ่งเมื่อวันเวลาผ่านไปรอยแตกก็จะกว้างขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นถ้ำในที่สุด

กิจกรรมที่น่าสนใจในถ้ำขมิ้น

-เที่ยวชมความงดงามตระการตา ของธรรมชาติภายในถ้ำ

คำแนะนำในการท่องเที่ยว
ข้อปฏิบัติในการเที่ยวชมถ้ำขมิ้น
-ไม่แตะต้องกลุ่มหินต่างๆภายในถ้ำ เพราะเหงื่อและไขมันจากตัวเราจะทำปฏิกริยากับหินเหล่านี้ จนทำให้มันหยุดการเติบโต หรือเรียกว่า"หินตาย"
-ไม่ขีดเขียน ตี เคาะหิน ก่อไฟ จุดประทัด จุดธูปเทียน สูบบุหรี่ เก็บหรือนำสิ่งของใดๆออกจากถ้ำ
-ไม่ส่งเสียงดังรบกวนสัตว์ที่อาศัยอยู่ในถ้ำ
-ไม่ขับถ่าย ไม่ว่าจะหนัก หรือเบา ภายในถ้ำ
-ไม่ทิ้งขยะ หรือนำอาหารเข้าไปในถ้ำ
-ไม่เดินออกนอกเส้นทางที่กำหนด

สวนโมกขพลาราม

ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว สวนโมกขพลาราม
ชื่อสถานที่ : สวนโมกขพลาราม
จังหวัด : จ.สุราษฎร์ธานี
ประเภท : วัด ศิลปะ วัฒนธรรม
ช่วงเวลาน่าเที่ยว :ตลอดทั้งปี
กิจกรรม : ไหว้พระขอพร พักผ่อนจิตใจ
อื่นๆ : ท่านที่สนใจเข้ารับการฝึกสมาธิ หรือกิจกรรมทางศาสนาอื่นๆ ติดต่อรายละเอียดได้ที่โทร.0 7743 1552,0 7743 1597 

                                   ชื่อภาพ:พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์: สวนโมกขพลาราม จังหวัดสุราษฎร์ธานี

                           ชื่อภาพ:ลานหินโค้ง: สวนโมกขพลาราม จังหวัดสุราษฎร์ธานี

สวนโมกขพลาราม สถานศึกษาธรรมและปฏิบัติธรรมที่ทรงคุณค่าอย่างยิ่งในพุทธศาสนจักร กำเนิดขึ้นเมื่อ พ.ศ.2502 โดยท่านพุทธทาสภิกขุ ภิกษุผู้ประกาศตนขอเป็นทาสแห่งพุทธองค์ ซึ่งได้ศึกษาค้นคว้าพระไตรปิฎกและทดลองปฏิบัติอย่างแน่วแน่จนก่อเกิดปัญญารู้แจ้งในพระธรรมคำสอนกระทั่งแยกแยะได้ว่า พระพุทธเจ้าทรงสอนอะไรและหัวใจของคำสอนคืออะไรท่านพุทธทาสได้ใช้ความรู้ความเข้าใจที่ได้ สร้างสรรค์เป็นคำสอนที่เข้าใจง่ายๆถ่ายทอดแก่พุทธศาสนิกชนทั้งยังเผยแพร่เป็นภาษาต่างๆและได้รับการยอมรับกันทั่วโลก
ภายในสวนโมกข์มีการจัดภูมิสถาปัติที่ให้ความสำคัญกับธรรมชาติ สถาปัตยกรรม ปฏิมากรรม จิตรกรรมและวรรณกรรมทั้งหมดสอดรับกลมกลืนกับธรรมชาติ และแสดงพุทธธรรมที่ลึกซึ้งแต่สามารถเข้าใจได้ง่ายๆ

คำแนะนำในการท่องเที่ยว
-สวนโมกขพลาราม เป็นสถานที่ท่องเที่ยวหาความรู้ทางศาสนาสามารถเข้าชมอย่างทั่วถึงภายในวันเดียวควรมาถึงที่นี้ในเวลาเช้าเพื่อจะได้มีเวลาพอต่อการเข้าชม
-ท่านที่สนใจเข้ารับการฝึกสมาธิ หรือกิจกรรมทางศาสนาอื่นๆ ติดต่อรายละเอียดได้ที่โทร.0 7743 1552,0 7743 159
โปรแกรมการฝึกนั่งสมาธิและศึกษาธรรมะที่สวนโมกขพลาราม มีการสอนฝึกสมาธิแก่ชาวต่างประเทศทุกวันที่ 1-10 ของเดือน และสำหรับคนไทยทุกวันที่ 20–27 ของเดือน ตั้งแต่เวลา 8.30–17.00 น.

วัดพระบรมธาตุไชยาวรวิหาร

  ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร
ชื่อสถานที่ : วัดพระบรมธาตุไชยาวรวิหาร
จังหวัด : จ.สุราษฎร์ธานี
ประเภท : วัด ศิลปะ วัฒนธรรม
ช่วงเวลาน่าเที่ยว :ตลอดทั้งปี
กิจกรรม : ไหว้พระขอพร
อื่นๆ : วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร 0 7743 1402, 0 7743 1090

                           ชื่อภาพ:วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร: วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี

                           ชื่อภาพ:วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร: วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี

 วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร เป็นที่ประดิษฐานขององค์พระบรมธาตุไชยา ซึ่งบรรจุพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ าเป็นปูชนียสถานสำคัญคู่บ้านคู่เมืองและเป็นหนึ่งในสามของโบราณสถานอันศักสิทธิ์ของภาคใต้ อันประกอบด้วยพระบรมธาตุไชยา พระบรมธาตุนครศรีธรรมราชและพระพุทธไสยาสน์ถ้ำคูหาภิมุขจังหวัดยะลา องค์พระบรมธาตุเป็นสถาปัตยกรรมแบบศรีวิชัยองค์เดียวที่ยังคงสภาพที่ดีที่สุด เข้าใจว่าสร้างในสมัยที่อาณาจักรศรีวิชัยเจริญรุ่งเรืองสูงสุดสันนิษฐานว่าสร้างขึ้นเมื่อประมาณพุทธศตรรษที่ 13-14 ไม่ปรากฏประวัติของผู้สร้าง รอบองค์พระธาตุมีเจดีย์เล็กๆ 4 ทิศล้อมรอบด้วยวิหารคด ซึ่งประดิษฐานพระพุทธรูปเก่าแก่ทั้ง 4 ด้าน นับเป็นปูชนียสถานทางพุทธศาสนาที่สำคัญของจังหวัดสุราษฎร์ธานี วัดพระบรมธาตุไชยาฯ ตั้งอยู่ที่ตำบลเวียง อำเภอไชยา จัดเป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรวิหาร ภาพของเจดีย์พระบรมธาตุนี้เป็นสัญลักษณ์ในดวงตราประจำจังหวัด ในธงและผ้าพันคอลูกเสือ ซึ่งถือกันว่าหากนักท่องเที่ยวยังไม่ได้ไปนมัสการพระบรมธาตุไชยาก็เหมือนยังไปไม่ถึงสุราษฎร์ธานีที่แท้จริง

ส่วนทางด้านสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมนั้น มีลักษณะเป็นเจดีย์องค์เดียวในปัจจุบันที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ที่สุด โดยองค์เจดีย์พระบรมธาตุมีความสูงจากฐานใต้ดินถึงยอด 24 เมตร ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมสูงย่อเก็จ ขนาดฐานวัดจากทิศตะวันตกยาว 13 เมตรฐานนี้สร้างก่อนสมัยที่ พระชยาภิวัฒน์ (หนู ติสโส) จะบูรณะตั้งอยู่บนผิวดินซึ่งมีระดับต่ำกว่าพื้นดินปัจจุบัน ทางวัดได้ขุด บริเวณโดยรอบฐานเป็นเสมือนสระกว้างประมาณ 50 เซนติเมตร ลึกประมาณ 60-70 เซนติเมตรเพื่อให้ฐานเดิม ปัจจุบันมีน้ำขังอยู่รอบฐานตลอดปี บางปีในหน้าแล้งรอบๆฐานเจดีย์พระบรมธาตุ จะแห้ง มีตาน้ำผุดขึ้นมาซึ่งชาวบ้านถือว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์สามารถแก้โรคภัยต่างๆ ได้ ต่อมาทางวัด ได้ใช้ปูนซีเมนต์ปิดตาน้ำเสีย

โดยองค์เจดีย์พระบรมธาตุเป็นทรงสี่เหลี่ยมจตุรมุขย่อมุขด้านหน้าหรือมุขด้านตะวันออกเปิด มีบันไดขึ้นสำหรับให้ประชาชนเข้าไปนมัสการพระพุทธรูป ภายในเจดีย์เมื่อเข้าไปภายใน จะเห็นองค์พระเจดีย์หลวง เห็นผนังก่ออิฐแบบไม่สอปูนลดหลั่นกันขึ้นไปถึงยอดมุขอีกสามด้าน ทึบทั้งหมดที่มุมฐานทักษิณมีเจดีย์ทิศหรือเจดีย์บริวารตั้งซ้อนอยู่ด้วย หลังคาทำเป็น 3 ชั้นลดหลั่น กันขึ้นไป แต่ละชั้นประดับรูปวงโค้งขนาดเล็กและสถูปจำลองรวม 24 องค์เหนือขึ้นไปเป็นส่วนยอด ซึ่งได้รับการซ่อมแซมครั้งใหญ่ในรัชกาลที่ 5 เป็นการบูรณะปฏิสังขรณ์ยอดเจดีย์ที่เดิมหักลงมาถึงคอระฆัง ทำให้เห็นลวดลายละเอียดเสียหายมากรวมทั้งฐานเจดีย์ที่จมอยู่ใต้ดินได้ขุดดินโดยรอบฐาน พระเจดีย์และทำลายรากไม้ในบริเวณนั้นแล้ว ก่ออิฐถือปูนตลอดเพื่อให้เห็นฐานเดิมของเจดีย์

อีกทั้งลวดลายประดับเจดีย์ได้มีการสร้างเพิ่มเติมใหม่ด้วยปูนปั้นเกือบทั้งหมด เป็นลายปั้นใหม่ตามความคิดของผู้บูรณะ มิได้อาศัยหลักทางโบราณคดีรวมถึงลานระหว่างเจดีย์และพระระเบียง เปลี่ยนจากอิฐหน้าวัวเป็นกระเบื้องซีเมนต์จนถึงในรัชกาลปัจจุบัน พ.ศ.2521-2522 ได้รับการ บูรณะปฎิสังขรณ์ใหญ่อีกครั้งโดยการบูรณะในครั้งนี้เป็นการซ่อมแซมของเก่าที่มีอยู่เดิมให้คง สภาพดีเพื่อไว้เป็นปูชนียสถานที่สำคัญของชาติสืบต่อไป



เขื่อนรัชชประภา

ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว เขื่อนรัชชประภา
ชื่อสถานที่ : เขื่อนรัชประภา
จังหวัด : จ.สุราษฎร์ธานี
การเดินทาง: คลิกเพื่อดูรายละเอียดการเดินทาง
ประเภท : เขื่อน ธรรมชาติ
ช่วงเวลาน่าเที่ยว :ตลอดทั้งปี
กิจกรรม : พักผ่อนหย่อนใจบริเวณสันเขื่อน นั่งเรือชมธรรมชาติภายในเขื่อน
อื่นๆ : มีร้านอาหาร แพที่พักให้บริการ

                              ชื่อภาพ:เขื่อนใหญ่: เขื่อนรัชชประภา จังหวัดสุราษฎร์ธานี

                               ชื่อภาพ:จากจุดชมวิว: เขื่อนรัชชประภา จังหวัดสุราษฎร์ธานี


เขื่อนรัชชประภา เป็นเขื่อนเอนกประสงค์ที่สร้างปิดกั้นลำน้ำคลองแสงเกิดเป็นอ่างน้ำขนาดใหญ่ บนสันเขื่อนเป็นจุดชมทิวทัศน์ที่งดงามของอ่างเก็บน้ำโดยเฉพาะยามดวงอาทิตย์ตก ภายในอ่างเก็บน้ำมีเกาะมากกว่า 100 เกาะสามารถล่องเรือชมทัศนียภาพที่สวยงามมาก บริเวณเกาะแก่งต่างฯมีแพพักซึ่งอยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติเขาสก ไว้บริการและยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจเช่น พายเรือแคนู ตกปลาเที่ยวถ้ำซึ่งจะต้องเดินป่าเข้าไประหว่างทางจะได้สัมผัสกับธรรมชาติและความสมบูรณ์ของผืนป่าภาคใต้ตัวเขื่อนซึ่งอยู่ในความดูแลของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ มีสนามกอล์ฟมาตรฐาน 8 หลุม ท่าเรือสำหรับนั่งเรือชมบรรยากาศเหนือเขื่อน และบ้านพักบริการแก่นักท่องเที่ยวอีกด้วย

เขื่อนรัชชประภา เป็นเขื่อนอเนกประสงค์ ใช้ประโยชน์ทั้งในด้านการชลประทานและการผลิตกระแสไฟฟ้า สร้างปิดกั้นลำน้ำคลองแสง ที่บ้านเชี่ยวหลาน ตำบลเขาพัง อำเภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ชื่อเดิมเรียกว่า เขื่อนเชี่ยวหลาน เริ่มดำเนินการก่อสร้าง เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2525 แล้วเสร็จในเดือนกันยายน 2530 เมื่อสร้างแล้วเสร็จได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานนามให้ใหม่ว่า “เขื่อนรัชประภา” มีความหมายว่า “แสงสว่างแห่งราชอาณาจักร” พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพร้อมด้วย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จพระราชดำเนินเปิดเขื่อนรัชประภา และโรงไฟฟ้าพลังน้ำ เมื่อวันพุธที่ 30 กันยายน 2530

ลักษณะเขื่อนและโรงไฟฟ้า
เขื่อนรัชชประภา สร้างปิดกั้นลำน้ำคลองแสง ที่บ้านเชี่ยวหลาน ตำบลเขาพัง อำเภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นเขื่อนหินถมแกนดินเหนียว สูง 94 เมตร ความยาวสันเขื่อน 761 เมตร และมีเขื่อนปิดกั้นช่องเขาขาดอีก 5 แห่ง

อ่างเก็บน้ำมีความจุ 5,638.8 ล้านลูกบาศก์เมตร พื้นที่อ่างเก็บน้ำ 185 ตารางกิโลเมตร ปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเฉลี่ยปีละ 3,057 ล้านลูกบาศก์เมตร

โรงไฟฟ้า ตั้งอยู่บนฝั่งขวาของแม่น้ำ เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก ติดตั้งเครื่องผลิตไฟฟ้า เครื่องละ 80,000 กิโลวัตต์ จำนวน 3 เครื่อง รวมกำลัง การผลิต 240,000 กิโลวัตต์ ให้พลังงานไฟฟ้าเฉลี่ยปีละประมาณ 554 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง

ลานไกไฟฟ้าตั้งอยู่บนฝั่งซ้ายของแม่น้ำ ห่างจากโรงไฟฟ้า ประมาณ 100 เมตร ทำหน้าที่ส่งพลังไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้า ด้วยสายส่งไฟฟ้าขนาด 230 กิโลโวลต์ วงจรคู่ไปยังสถานี ไฟฟ้าแรงสูงสุราษฎร์ธานี ระยะทาง 50 กิโลเมตร และขนาด115 กิโลโวลต์ วงจรคู่ไปยังสถานีไฟฟ้าแรงสูงพังงา ระยะทาง 82 กิโลเมตร เขื่อนรัชชประภา เริ่มดำเนินการก่อสร้าง เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2525 แล้วเสร็จในเดือนกันยายน2530

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพร้อมด้วย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จพระราชดำเนินเปิดเขื่อนรัชชประภา และโรงไฟฟ้าพลังน้ำ เมื่อวันพุธที่ 30 กันยายน 2530


ประโยชน์จากเขื่อนรัชชประภา
ด้านพลังงานไฟฟ้า มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 240,000 กิโลวัตต์ ให้พลังงานไฟฟ้าเฉลี่ยปีละประมาณ 554 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง ส่งพลังไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้า ด้วยสายส่งไฟฟ้าขนาด 230 กิโลโวลต์ วงจรคู่ไปยังสถานี ไฟฟ้าแรงสูงสุราษฎร์ธานี ระยะทาง 50 กิโลเมตร และขนาด115 กิโลโวลต์ วงจรคู่ไปยังสถานีไฟฟ้าแรงสูงพังงา ระยะทาง 82 กิโลเมตร

การชลประทานเพื่อการเพาะปลูก ปริมาณน้ำที่ปล่อยจากเขื่อนให้ประโยชน์ต่อการเพาะปลูกพืช บริเวณสองฝั่งแม่น้ำในตอนล่าง เป็นผลให้พื้นที่ประมาณ 100,000 ไร่ ในเขตท้องที่ตำบลตาขุน อำเภอคีรีรัฐนิคม และอำเภอพุนพิน สามารถปลูกพืชในฤดูแล้งได้ผลดีบรรเทาอุทกภัย การกักเก็บน้ำของเขื่อนในฤดูฝน จะช่วยลดความรุนแรงของสภาวะน้ำท่วมในพื้นที่ตอนล่างได้เป็นอย่างดี

การประมง อ่างเก็บน้ำของเขื่อนรัชประภาเป็นแหล่งประมงน้ำจืดที่สำคัญ สร้างรายได้ให้กับราษฎรในพื้นที่ได้อีกทางหนึ่ง

การผลิตไฟฟ้า พลังน้ำจากเขื่อนสามารถนำมาผลิตพลังงานไฟฟ้าได้ถึงปีละ 554 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง ช่วยเสริมระบบไฟฟ้าในภาคใต้ให้มั่นคงยิ่งขึ้น แก้ไขน้ำเสียและผลักดันน้ำเค็ม ในฤดูแล้งลำน้ำตาปี-พุมดวงมีปริมาณน้ำลดลง ทำให้เกิดภาวะน้ำเน่าเสียได้ง่าย ขณะเดียวกันบริเวณปากแม่น้ำจะมีน้ำเค็มหนุนขึ้นมา น้ำที่ปล่อยจากเขื่อน รัชประภาจะช่วยเจือจางน้ำเสียในลำน้ำ และผลักดันน้ำเค็มที่ปากแม่น้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การท่องเที่ยว รูปแบบการท่องเที่ยว ตัวเขื่อนเป็นการดูแลของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต การท่องเที่ยวบริเวณเขื่อนอยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติเขาสก ในอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนรัชชประภาจะมีแพที่พักไว้บริการ เป็นแพของทางอุทยาน 3 แพ แต่ละแพอยู่ในตำแหน่งที่มีทัศนียภาพสวยงาม และยังมีแพของเอกชนอีก 3 แพ การเที่ยวเขื่อนรัชชประภาสำหรับคณะที่มีเวลาน้อยจะขับรถมาจอดที่จุดชมวิวบน สันเขื่อน แล้วก็กลับ บางคณะพอมีเวลาหน่อยก็จะเช่าเรือหางยาวนั่งชมทัศนียภาพในอ่างเก็บน้ำ เรือจะพาไปถึงแพของอุทยาน ขึ้นแพพักผ่อนอริยาบท ชมทัศนียภาพ ถ่ายรูปแล้วก็เดินทางกลับ แต่สำหรับคณะที่ต้องการพักผ่อนบนแพท่ามกลางธรรมชาติก็จะพักค้างคืนบนแพ กิจกรรมที่น่าสนใจระหว่างที่พักอยู่ที่แพคือ ชมวิว เล่นน้ำ พายเรือแคนู ตกปลา และอีกกิจกรรมที่น่าสนใจคือการไปเที่ยวถ้ำซึ่งจะต้องเดินป่าเข้าไป ระหว่างทางจะได้สัมผัสความสมบูรณ์ของป่าดิบของภาคใต้ เดินไม่ไกลพอได้บรรยากาศการเดินเที่ยวป่าสัมผัสธรรมชาติ และอีกกิจกรรมหนึ่งคือการนั่งเรือชมวิว วิวในอ่างเก็บน้ำสวยเกินคำบรรยาย ทัศนียภาพในอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนสวยงามมากจนได้ชื่อว่ากุ้ยหลินเมืองไทย บริเวณเกาะแก่งในเขื่อนยังมีแพพักของอุทยานฯ ไว้บริการแก่นักท่องเที่ยวได้ไปท่องเที่ยวพักผ่อน ในแต่ละปีสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวปีละกว่า 70,000 คน สร้างรายได้ให้กับคนในพื้นที่ทั้งคนขับเรือนำเที่ยว และการค้าขายบริเวณสันเขื่อน

กิจกรรมที่น่าสนใจในเขื่อนรัชชประภา
-ชมทิวทัศน์สวยๆของสันเขื่อนและอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อน
-เล่นกอล์ฟที่สนามกอล์ฟขนาด 8 หลุมของเขื่อนฯ
-ลงเรือเที่ยวชมเกาะแก่งต่างๆในอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อน
-หาซื้อปลาน้ำจืดตัวโตๆ สดๆ ที่บริเวณท่าเรือ

เกาะเต่า เกาะนางยวน

 ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว เกาะเต่า-เกาะนางยวน
ชื่อสถานที่ : เกาะเต่า เกาะนางยวน
จังหวัด : จ.สุราษฎร์ธานี
การเดินทาง: คลิกเพื่อดูรายละเอียดการเดินทาง
ประเภท : ทะเล เกาะ
ช่วงเวลาน่าเที่ยว :ตลอดทั้งปี
กิจกรรม : ดำน้ำตื้น ชมวิวที่จุดชมวิวเกาะนางยวน พักผ่อนริมชายหาด
อื่นๆ : บนเกาะเต่าที่ที่พัก ร้านอาหารให้บริการแก่นักท่องเที่ยว

                                ชื่อภาพ:เสน่ห์นางยวน: เกาะเต่า-เกาะนางยวน จังหวัดสุราษฎร์ธานี

                                 ชื่อภาพ:เกาะเต่า-เกาะนางยวน จ.สุราษฎร์ธานี (ภาพโดย:Panuvat): เกาะเต่า-เกาะนางยวน จังหวัดสุราษฎร์ธานี



  กาะเต่า-เกาะนางยวน เป็นเกาะที่มีธรรมชาติสวยงาม มีความสมบูรณ์ของชีวิตใต้ทะเล มีแนวปะการังทั้งน้ำตื้นและน้ำลึก จึงเสมือนเป็นสวรรค์ของนักดำน้ำกลางอ่าวไทย เกาะเต่าแห่งนี้แม้จะรู้จักกันในฐานะแหล่งท่องเที่ยวได้ไม่นานนัก แต่ด้วยทัศนียภาพที่แปลกตา มีอ่าว, แหลม นับสิบแห่งอยู่รอบเกาะ หาดทรายขาวเม็ดทรายละเอียด น้ำทะเลใส ปะการังสวย เป็นที่ประทับใจของนักท่องเที่ยว ชื่อของเกาะเต่าจึงรู้จักกันทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติอย่างรวดเร็ว ด้วยระยะทางที่ค่อนข้างห่างไกลจากชายฝั่งฝุ่นตะกอนมาไม่ถึง น้ำทะเลจึงใสสะอาด แสงแดดส่องผ่านผิวน้ำลงไปได้ลึก เหล่าปะการังใต้ทะเลเจริญเติบโตได้ดี เป็นแหล่งอาศัยของสัตว์ทะเลมากมายหลายชนิด เกิดเป็นทัศน์วิสัยที่งดงามแห่งโลกใต้ทะเล ที่สร้างความสุขใจให้กับนักดำน้ำและนักท่องเที่ยวที่รักความสงบได้ตลอดเวลาที่มาเยือน

 เกาะเต่า เป็นตำบลหนึ่งของเกาะพงัน จ.สุราษฎร์ธานี มีด้วยกันสองเกาะคือเกาะเต่าและเกาะนางยวน อยู่ห่างเกาะพงันไปทางตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 45 กม. เกาะเต่า เกาะสวรรค์กลางทะเลอ่าวไทยเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและแหล่งดำน้ำที่สวยงามแห่งท้องทะเลอ่าวไทยที่พึ่งจะเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวชาวไทยเมื่อไม่กี่ปีนี้เอง แต่สำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศแล้วชื่อของเกาะเต่ากล่าวได้ว่าเป็นสวรรค์ของการดำน้ำ ที่นักดำน้ำทั่วโลกรู้จักดีในความงดงามและความมีสีสันของโลกใต้ทะเลที่ไม่แพ้ที่แห่งใดในโลก

เกาะเต่า ประกอบด้วยเกาะสำคัญ 2 เกาะ คือ เกาะเต่าและเกาะนางยวน พื้นที่เกือบทั้งหมดเป็นภูเขามีพื้นที่ราบอยู่เพียง30% ของตัวเกาะ ซึ่งมีพื้นที่ทั้งหมด 17.96 ตารางกิโลเมตร หรือ 12,225 ไร่ กว้าง 3.4 กิโลเมตร ยาว 7.6 กิโลเมตร มีด้วยกัน 3 หมู่บ้าน คือ บ้านหาดทรายรี บ้านแม่หาดและบ้านโฉลกบ้านเก่า และด้วยระยะห่างจากปากน้ำชุมพร 85 กิโลเมตร ห่างจากอ่าวบ้านดอนสุราษฎร์ธานี 120 กิโลเมตร และห่างเกาะพะงัน ซึ่งถือเป็นเกาะที่อยู่ใกล้ที่สุด 45กิโลเมตร นั่นก็ทำให้ เกาะเต่ากลายเป็นเกาะกลางทะเลหลวง ทีค่อนข้างจะโดดเดี่ยวโดยแท้

  เกาะเต่า มีรูปร่างคล้ายเมล็ดถั่วแต่บ้างก็ว่ามีลักษณะคล้ายตัวเต่า มีเกาะนางยวนเป็นหางจึงเป็นที่มาของชื่อเกาะ ลักษณะของเกาะเต่าจะมีเว้าแหว่งของอ่าวอยู่มากมาย มีความงดงามตามธรรมชาติด้วยอ่าวถึง 11 อ่าว และ แหลม 10 แหลม ตลอดแนวชายฝั่งของเกาะซึ่งยาว 28.6 กิโลเมตร รวมทั้งเป็นเกาะที่มีแนวปะการังยาวถึง 8 กิโลเมตร อยู่โดยรอบ เกาะเต่าแม้จะอยู่ในทะเลด้านที่รับลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งพัดผ่านมาในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนมีนาคม แต่ก็มีเกาะน้อยใหญ่ช่วยกำบังคลื่นลมให้อยู่บ้างนักท่องเที่ยวจึงสามารถ เดินทางไปเกาะเต่าได้ตลอดปี บนเกาะเต่ามีบังกะโลกระจายอยู่ตามชายหาดต่างๆ มีบริการ รถจี๊ป รถมอเตอร์ไซต์ และจักรยานเสือภูเขาให้เช่า รวมทั้งบริการเรือเช่าและอุปกรณ์ดำน้ำ ตอนกลางวันจะไม่ค่อยพบเห็นนักท่องเที่ยว เพราะส่วนใหญ่จะนั่งเรือออกไปดำน้ำกันตั้งแต่เช้ากว่าจะกลับเข้าฝั่งก็เย็นย่ำ

  เกาะนางยวน ประกอบกันด้วยเกาะเล็กเกาะน้อย 3 เกาะ ที่เชื่อมต่อกันด้วยสันทรายสีขาว จนบางครั้งยามน้ำลงก็สามารถเดินถึงกัน และกลายเป็นเกาะเดียวต่อเนื่องกันไปได้ สภาพธรรมชาติโดยรอบประกอบด้วย ดงปะการังอันอุดมสมบูรณ์อยู่ภายใต้ท้องทะเลสีเขียวมรกตจึงนับเป็นแหล่งที่เหมาะกับการเล่นน้ำ และการดำน้ำดูปะการังเป็นอย่างยิ่ง

อุทยานแห่งชาติเขาสก

 ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว อุทยานแห่งชาติเขาสก
ชื่อสถานที่ : อุทยานแห่งชาติเขาสก
จังหวัด : จ.สุราษฎร์ธานี
ประเภท : เขื่อน ภูเขา ธรรมชาติ
ช่วงเวลาน่าเที่ยว :ตลอดทั้งปี
กิจกรรม : เที่ยวเขื่อน เดินป่า ศึกษาธรรมชาติ
อื่นๆ : อุทยานแห่งชาติเขาสก โทร: 0773951


                              ชื่อภาพ:อุทยานแห่งชาติเขาสก: อุทยานแห่งชาติเขาสก จังหวัดสุราษฎร์ธานี

                              ชื่อภาพ:อุทยานแห่งชาติเขาสก: อุทยานแห่งชาติเขาสก จังหวัดสุราษฎร์ธานี

  อุทยานแห่งชาติเขาสก ครอบคลุมพื้นที่ป่าดิบชื้นที่ใหญ่ที่สุดของภาคใต้ ที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าและธรรมชาติอันงดงาม พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นเทือกเขาหินปูนสลับซับซ้อน เมื่อประกอบกับผืนน้ำกว้างใหญ่จากการกั้นเขื่อนรัชชประภา เขาหินบางส่วนได้กลายเป็นเกาะแก่งกลางห้วงน้ำอันไพศาล เกิดทัศนียภาพตระการตาของเกาะแก่งกลางผืนน้ำ ทิวเขาหินปูนที่มียอดแหลมเรียงรายระเกะระกะ มีแนวหน้าผาสูงชันบางแห่งเป็นแท่งเหมือนหอคอย เมื่อมีสายหมอกลอยเหนือผิวน้ำเคล้าเคลียทิวเขาและเกาะแก่ง เกิดเป็นภาพงดงามเกินบรรยาย เป็นสถานที่ที่เรียกกันว่า "กุ้ยหลินเมืองไทย"ในพื้นที่อุทยาน มีน้ำตก ถ้ำ ธารน้ำ โตรกเขา ที่สวยงาม อีกทั้งสัตว์ป่าและพรรณไม้หลายชนิดล้วนน่าชมน่าศึกษา บางชนิดพบได้ที่นี้เท่านั้น กิจกรรมการท่องเที่ยวที่นี้เป็นการเดินป่าทั้งระยะใกล้และไกล เที่ยวถ้ำน้ำตก ชมทิวทัศน์ ศึกษาพรรณไม้และธรณีวิทยา

"เขาสก" เดิมชาวบ้านเรียกที่นี่ว่า "บ้านศก" ก่อนหน้านั้นเรียกว่า "บ้านศพ" ต.คลองศก อ.พนม จ.สุราษฎร์ธานี คนเก่าแก่เล่าว่าเหตุที่เรียกว่า บ้านศพนั้น สมัยก่อนเป็นหมู่บ้านกลางป่าไม่สามารถติดต่อกับที่ไหนได้เลย ในสมัยรัชกาลที่ 2 พม่ายกทัพมาตีตะกั่วทุ่ง ตะกั่วป่า ฉลาง (ภูเก็ต) ชาวบ้านหนีเข้าป่าขึ้นเขานมสาว เขาสก แล้วมาตั้งบ้านเรือนเพื่อทำมาหากินปลูกพืชหาปลาล่าสัตว์ ต่อมาเกิดโรคระบาด ชาวบ้านตายเป็นจำนวนมาก บ้านศกจึงกลายเป็นบ้านร้าง ในปี พ.ศ.2504 บริษัทมหาไทยได้ตัดถนนจาก อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ไปยัง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ผ่านบ้านศก และเขาสก คนงานนับพันคนได้ สร้างบ้านพักที่เชิงเขาพันธุรัตน์และล่าสัตว์โดยใช้เครื่องมือที่ทันสมัย ประกอบกับการเดิน ทางไปมาที่สะดวก ชาวบ้านจาก จ.นครศรีธรรมราช ชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ และสงขลา เริ่มพากันมาจับจองที่ดินมีการตัดไม้ทำลายป่า ขอประทานขุดแร่ และสัมปทานป่าไม้ ป่าไม้และสัตว์ป่าลดลงเรื่อย ๆ

ในปี พ.ศ.2519 มีการสำรวจสภาพภูมิประเทศและสภาพป่าทางเครื่องบินพบว่า ป่าโครงการไม้กระยาเลย คลองแสง คลองหยี เกือบทั้งหมดเป็นภูเขาสลับซับซ้อน โดยเฉพาะป่าบริเวณเขาสกเป็นป่าที่สมบูรณ์ มีน้ำตกที่สวยงามหลายแห่ง เป็นต้นน้ำลำธารของแม่น้ำ ตาปี มีสัตว์ป่าชุกชุมทั้งยังไม่เคยผ่านการทำไม้มาก่อน น่าจะกำหนดให้เป็นอุทยาน แห่งชาติเพื่อจะได้อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติไม่ให้ถูกทำลายไปหรือเปลี่ยนสถาพไป เป็นประโยชน์ในการท่องเที่ยว และการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

กองอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ได้นำเสนอคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติมีมติเห็นชอบ ให้ป่าบริเวณคลองหยีและคลองพระแสงในท้องที่ ต.ไกรสร ต.เขาพัง อ.บ้านตาขุน และ ต.คลองศก ต.พนม อ.พนม จ.สุราษฎร์ธานี เป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2523 ครอบคลุมพื้นที่ 645.52 ตร.กม. หรือ 403,450 ไร่ ปัจจุบันได้มีการผนวกพื้นที่ อ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนรัชชประภา ซึ่งอยู่ในท้องที่ ต.ตะกุกเหนือ อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อ 2 สิงหาคม 2537 รวมเนื้อที่ทั้งสิ้น 738.74 ตร.กม. หรือ 461,712.5 ไร่ นับเป็นอุทยานแห่งชาติแห่งที่ 22 ของประเทศไทย

สภาพภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นภูเขาหินปูนสูงสลับซับซ้อน และยาวต่อเนื่องกัน โดยเฉพาะ เขากาเลาะที่มียอดแหลมระเกะระกะ บางแห่งมีลักษณะเป็นแท่งคล้ายหอคอยสูง ด้านทิศ ตะวันออกเป็นภูเขาดิน มีเทือกเขาสกและเขานมสาวยาวติดต่อกัน จุดสูงสุดมีความสูง 960 เมตร จากระดับน้ำทะเล ดินส่วนมากเป็นดินเหนียวปนทราย มีความเป็นกรดสูงสามารถอุ้มน้ำ ได้มาก แต่จะถูกกัดเซาะได้ง่าย บริเวณอุทยานเขาสก ได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมทั้งสองฝั่ง คือ ทั้งด้านมหาสมุทรอินเดียและมหาสมุทรแปซิฟิกฝนจะเริ่มตกตั้งแต่เดือนเมษายน-ธันวาคม และจะตกชุกมากในช่วงเดือนพฤษภาคม-พฤศจิกายน ช่วงที่เหมาะที่สุดในการเข้าชมอุทยาน ระหว่างเดือนธันวาคม-เมษายน

กิจกรรมที่น่าสนใจในอุทยานแห่งชาติเขาสก

   -เที่ยวเขาสก ชมธรรมชาติ

   -ล่องเรือชมขุนเขา เกาะแก่งต่างๆที่สวยงาม

   -เดินป่าไปเที่ยวถ้ำ น้ำตก และธรรมชาติที่แปลกตา

    -ชมดอกบัวผุด ดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

    -สิ่งน่าสนใจอื่นๆในอุทยานแห่งชาติเขาสก

หินตาหินยาย

ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว หินตาหินยาย
ชื่อสถานที่ : หินตาหินยาย
จังหวัด : เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี
ประเภท : ชายหาด/ทะเล/เกาะ
ช่วงเวลาน่าเที่ยว :ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะช่วงเดือน มกราคม-เมษายน
กิจกรรม : พักผ่อนริมชายหาด กิจกรรมทางทะเล ดำน้ำ ดูปะการัง
ค่าใช้จ่าย : ค่าเรือเฟอร์รี่คนละ 150 บาท และ 420 บาทสำหรับรถยนต์ 1 คันพร้อมคนขับ


                          ชื่อภาพ:หินตา: หินตาหินยาย จังหวัดสุราษฎร์ธานี

                          ชื่อภาพ:ทิวทัศน์โดยรอบหินตาหินยาย: หินตาหินยาย จังหวัดสุราษฎร์ธานี
                                         
 หินตาหินยาย ตั้งอยู่ที่บริเวณหาดละไมบนเกาะสมุย เป็นพื้นที่สาธารณะที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเยี่ยมชมธรรมชาติอันน่าสนใจของหินตาหินยาย พื้นที่บริเวณหาดจะเป็นหินทั้งหมดสามารถเดินลงไปได้ถึงทะเลเลยทีเดียว ท่านจะได้สัมผัสกับธรรมชาติของหาดหินที่สวยงาม เหมาะแก่การนั่งเล่นพักผ่อนหรือจะลงเล่นน้ำก็ได้ และที่น่าสนใจคือบริเวณหินตาหินยายจะมีหินรูปร่างประหลาดอยู่ 2 แห่งด้วยกันซึ่งมีชื่อว่าหินตา และหินยาย เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวที่มาเกาะสมุยต้องแวะเวียนเข้ามาถ่ายรูป

กิจกรรมที่น่าสนใจในหินตาหินยาย
 -ถ่ายรูป ชมทิวทัศน์โดยรอบ
 -เล่นน้ำทะเล ซึ่งจุดที่อยู่ระหว่างหินตาและหินยาย จะมีหาดทรายเล็กอยู่ สามารถที่จะลงเล่นน้ำทะเลได้
  -ซื้อของที่ระลึก บริเวณทางเข้าจะมีร้านขายของที่ระลึกซึ่งเป็นพวก โมบาย หรือของแต่งบ้านต่างๆ

หาดเฉวง

ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว หาดเฉวง
ชื่อสถานที่ : หาดเฉวง
จังหวัด : เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี
การเดินทาง: คลิกเพื่อดูรายละเอียดการเดินทาง
ประเภท : ชายหาด/ทะเล/เกาะ
ช่วงเวลาน่าเที่ยว :ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะช่วงเดือน มกราคม-เมษายน
กิจกรรม : พักผ่อนริมชายหาด กิจกรรมทางทะเล ดำน้ำ ดูปะการัง
ค่าใช้จ่าย : ค่าเรือเฟอร์รี่คนละ 150 บาท และ 420 บาทสำหรับรถยนต์ 1 คันพร้อมคนขับ


                          ชื่อภาพ:วิวสวยฟ้าใส: หาดเฉวง จังหวัดสุราษฎร์ธานี

                                          
                          ชื่อภาพ:หาดที่ทอดยาว: หาดเฉวง จังหวัดสุราษฎร์ธานี

 หาดเฉวง อยู่ทางตะวันออกของเกาะสมุย เป็นชายหาดที่นักท่องเที่ยวชอบมาเล่นน้ำทะเล มีหาดทรายขาว น้ำทะเลใส ระดับน้ำไม่ลึกมากนัก มีหาดเฉวงน้อยอยู่ถัดไปทางใต้ซึ่งจัดเป็นหาดทรายที่สวยงามมาก เวลาน้ำลงจะเห็นเป็นลานทรายกว้างขวางในคืนพระจันทร์เต็มดวงแสงจันทร์ที่สาดลงอาบพื้นทรายเห็นเป็นประกายแวววาวสวยงามประทับใจเป็นอย่างยิ่งหาดเฉวงเป็นชายหาดที่นักท่องเที่ยวจากยุโรปนิยมมาอาบแดดกันมากใกล้ชายหาดมีที่พัก ร้านอาหาร สถานบรรเทิง ให้บริการนักท่องเที่ยวจะได้รับทั้งความสุขจากธรรมชาติและความสนุกสนานยามราตรี

เกาะสมุย

 ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว เกาะสมุย
ชื่อสถานที่ : เกาะสมุย
จังหวัด : สุราษฎร์ธานี
ประเภท : ชายหาด/ทะเล/เกาะ
ช่วงเวลาน่าเที่ยว :ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะช่วงเดือน มกราคม-เมษายน
กิจกรรม : พักผ่อนริมชายหาด กิจกรรมทางทะเล ดำน้ำ ดูปะการัง
ค่าใช้จ่าย : ค่าเรือเฟอร์รี่คนละ 150 บาท และ 420 บาทสำหรับรถยนต์ 1 คันพร้อมคนข
 

                                ชื่อภาพ:นอนพักกันต่อ: เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี 

                               ชื่อภาพ:หาดเฉวง: เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี      

  เกาะสมุย ในอดีตคนไทยรู้จักเกาะสมุยว่ามีมะพร้าวพันธุ์ดีมากที่สุดปัจจุบันนักท่องเที่ยวทั่วโลกเรียกขานเกาะสมุยว่า สวรรค์กลางอ่าวไทย เกาะสมุย มีหาดทรายขาวสวยขนานไปกับทะเลและทิวมะพร้าวริมชายหาดเกือบรอบเกาะ เป็นเสน่ห์เฉพาะตัวที่สร้างความหลงไหลให้กับผู้มาเยือน โรงแรม.ในเกาะสมุยกลายเป็นหนึ่งในที่พักอันดับต้นๆที่มีการจองเข้ามาทั้งจากภายในและต่างประเทศ ไม่เพียงเกาะสมุยเท่านั้นบรรดาเกาะบริวารและหมู่เกาะใกล้เคียงก็ล้วนมีทิวทัศน์ที่สวยงามยิ่ง จนนักท่องเที่ยวที่มาสมุยรู้สึกถึงความคุ้มเกินค่าการเดินทาง แต่ละหาดบนเกาะมีบรรยากาศการท่องเที่ยวที่แตกต่างกันไปเช่น หาดเฉวง มีทรายขาวสะอาด น้ำทะเลใส เหมาะแก่การเล่นน้ำ หาดละไม มีอ่าวโค้งสวยงาม หาดตลิ่งงาม เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดบนเกาะ ไม่เพียงแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติเท่านั้นเกาะสมุยยังพร้อมไปด้วยที่พักร้านอาหาร บริการนำเที่ยว สถานบันเทิง และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันการเดินทางไปยังเกาะสมุยนั้นสะดวกมาก มีทั้งเรือโดยสารเรือเฟอร์รี่ข้ามฝั่งที่ออกเกือบทุกชั่วโมงและยังมีเที่ยวบินตรงมายังเกาะสมุยอีกด้วย

 เกาะสมุย นับว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญที่เป็นที่รู้จักแก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเป็นอย่างดี จัดว่าเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ ซึ่งรองมาจากเกาะภูเก็ต และเกาะช้าง นักท่องเที่ยวโดยส่วนใหญ่ที่เดินทางมาเกาะสมุยล้วนต้องการพักผ่อนริมหาด ไม่ว่าจะเป็นการเล่นน้ำ หรือดำน้ำชมปะการังนอกจากนี้ยังมีเกาะเล็กเกาะน้อยที่วางตัวอยู่ใกล้ริมหาดรอบๆ เกาะสมุย บางเกาะในยามที่น้ำลงก็สามารถเดินเท้าไปได้โดยสะดวก บางเกาะก็เป็นแหล่งดำน้ำชมปะการังที่สวยงาม
   

น้ำตกดาดฟ้า

ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว น้ำตกดาดฟ้า
   ชื่อสถานที่ : น้ำตกดาดฟ้า
   ที่ตั้ง : จ.สุราษฎร์ธานี
   การเดินทาง: คลิกเพื่อดูรายละเอียดการเดินทาง
   ประเภท : น้ำตก
   ช่วงเวลาน่าเที่ยว : ตลอดทั้งปี
   กิจกรรม : เที่ยวน้ำตก เดินป่า ศึกษาธรรมชาติ
   อื่นๆ : ทางอุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็นมีที่พักและลานกางเต้นท์ให้บริการแก่นักท่องเที่ยว

                               ชื่อภาพ:สุดยอดจากุสชี่: น้ำตกดาดฟ้า จังหวัดสุราษฎร์ธานี

                               ชื่อภาพ:ห้ามซน: น้ำตกดาดฟ้า จังหวัดสุราษฎร์ธานี


 น้ำตกดาดฟ้า อุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็น เป็นเทือกเขาสูงสลับซับซ้อนและป่าดิบชื้นที่ยังมีสภาพอุดมสมบูรณ์มาก มีพื้นที่ครอบคลุมบางส่วนของอำเภอบ้านนาสาร กาญจนดิษฐ์ และเวียงสระจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นแหล่งกำเนิดของต้นน้ำลำธารเกิดเป็นลำคลองสำคัญไหลสู่แม่น้ำตาปี เป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่านานาชนิด เป็นภูเขาที่สูงที่สุดของจังหวัดสุราษฎร์ธานีลักษณะทางกายภาพเช่นนี้ทำให้ภายในอุทยานอุดมไปด้วยธรรมชาติที่สวยงาม เช่นน้ำตก ถ้ำ ผา ลำธาร แม้หุบเหวและทิวเขาก็ยังมีมุมมองที่งดงามไม่แพ้กัน

 ครั้งหนึ่งบางส่วนของพื้นที่แห่งนี้ถูกใช้เป็นฐานในสงครามประชาชนซึ่งยังมีหลักฐานปรากฏอยู่เช่น บังเกอร์ ค่ายพัก อุโมงค์ ให้ชนรุ่นหลังได้ศึกษาเหตูการณ์ในอดีต อุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็นให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสความชุ่มฉ่ำจากธารน้ำและน้ำตก ได้สดชื่นจากความร่มรื่นของแมกไม้ตลอดเส้นทางเดินป่า ได้ความตื่นตาจากทิวทัศน์ที่สวยงามได้ความรู้ในด้านธรรมชาติวิทยาและประวัติศาสตร์ อย่างครบครัน

กิจกรรมที่น่าสนใจในน้ำตกดาดฟ้า

-เดินป่าสัมผัสธรรมชาติ
-เล่นน้ำตก สนุกผ่อนคลายกับความเย็นฉ่ำของน้ำตกดาดฟ้า
                            
             

บ้านดอน เมืองสุราษฎร์ธานี

ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว บ้านดอน เมืองสุราษฎร์ธานี
ชื่อสถานที่ : บ้านดอน ตัวเมืองสุราษฎร์ธานี
จังหวัด : จ.สุราษฎร์ธานี
ประเภท : เมือง
ช่วงเวลาน่าเที่ยว :ตลอดทั้งปี
กิจกรรม : งานใหญ่ประจำปีของเมืองสุราษฎร์ธานีคือประเพณีชักพระทอดผ้าป่า ในคอนเซ็ปต์ เที่ยวคลองร้อยสาย ไหว้พระร้อยวัด
อื่นๆ : ร้านอาหารแนะนำ ร้านพี่เริญ ร้านต้นมะพร้าว ลักกี้ภัตตาคาร ร้านปักกิ่ง ร้านเจ้ลั้ง ร้านส้มตำดอนนกซอย 7

                                    ชื่อภาพ:ริมเขื่อน: บ้านดอน เมืองสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี

                                    ชื่อภาพ:ศาลหลักเมือง: บ้านดอน เมืองสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี

  บ้านดอน เป็นศูนย์กลางชุมชนเมืองที่เกิดขึ้นด้วยปัจจัยทางภูมิศาสตร์รอบอ่าวบ้านดอน เป็นศูนย์กลางการค้าขายนับแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยพัฒนามาพร้อม ๆ กับชุมชนโบราณอีกหลายแห่งที่อยู่บริเวณรอบอ่าวบ้านดอน เช่นเมืองไชยา เมืองท่าทอง และชุมชนที่อยู่ต้นน้ำคือเมืองเวียงสระ และเมืองท่าขนอน เมืองบ้านดอนผ่านรูปแบบการปกครองมาหลายยุคหลายสมัย จนที่สุดจึงเป็นที่ตั้งของตัวจังหวัดคืออำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี เมื่อปี พ.ศ.2481

  เมืองสุราษฎร์ฯ มีแม่น้ำตาปีไหลผ่านตัวเมืองสภาพโดยรวมของพื้นที่ทั้งสองฝั่งน้ำดูแตกต่างกันอย่างชัดเจน ทางฝั่งบ้านดอนเป็นย่านที่อยู่อาศัย ศูนย์ราชการ ศูนย์การค้าการพาณิชย์และย่านเศรษฐกิจที่สำคัญของจังหวัด ส่วนฝั่งในบางยังมีความเป็นชนบทมีวิถีชีวิตแบบชาวสวนและชาวประมงในพื้นที่น้ำท่วมถึง ที่มีลำคลองนับร้อยสายกระจายอยู่เต็มพื้นที่ไปจนจรดชายฝั่งทะเล เมืองสุราษฎร์ฯ เป็นศูนย์กลางของการท่องเที่ยวของภาคใต้ตอนบนจึงเป็นศูนย์กลางของการเดินทางไปด้วย จากบ้านดอนสามารถไปยังแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆได้รอบ ทั้งภูเก็ต กระบี่ พังงาระนอง ชุมพร ตรัง พัทลุง นครศรีธรรมราช หาดใหญ่ หรือจะเป็นเกาะสมุยเกาะพงัน เกาะเต่า ก็ต้องเริ่มต้นที่บ้านดอนเช่นกัน

 ประเพณีที่น่าสนใจของบ้านดอน เมืองสุราษฎร์ธานี
-งานชักพระและทอดผ้าป่า สุราษฎร์ธานี